ญาติพาเด็กหญิงวัย 13 ปี เข้าแจ้งความ หลังถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนมานาน 4 ปี บางครั้งเสพยาต่อหน้าเด็ก ก่อนลงมือข่มขืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ นำตัวญาติและพยานจากคดีที่ผู้นำท้องถิ่นพร้อมกับญาตินำตัว ด.ญ.อ้อย (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กระบี่ เข้าแจ้งความว่าถูก นายโน๊ต (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี พ่อแท้ๆ ข่มขืนนานต่อเนื่องร่วม 4 ปี เหตุเกิดที่บ้านในพื้นที่ หมู่ 2 ต.กระบี่น้อย มาสอบปากคำเพื่อรวบรวมไว้เป็นสำนวนในคดี กันกระเทก บับเบิ้ล
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางญาติได้นำตัว ด.ญ.อ้อย (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี บ้านอยู่หมู่ 2 ต.กระบี่น้อย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ ว่าถูกนายโน๊ต (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี พ่อแท้ๆ ก่อเหตุข่มขืนมานานร่วม 4 ปี
ซึ่งทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ ประสานไปยัง พมจ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก จ.กระบี่ รับตัว ด.ญ.อ้อย ไปดูแล พร้อมทั้งส่งไปตรวจร่างกายที่ รพ.กระบี่ แพทย์ให้ยาแก้อักเสบกับเด็ก ก่อนจะพาไปพักเยี่ยวยาจิตใจที่บ้านพักเด็ก จ.กระบี่
ทางเจ้าหน้าที่หญิงได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากเด็ก ได้ความว่า เด็กถูกพ่อก่อเหตุข่มขืนมาตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้น ป.4 จนถึงปัจจุบัน เด็กเรียนอยู่ชั้น ม.1 เด็กยอมรับว่าเพิ่งมีความรู้เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ตอนที่เริ่มได้เรียนตอนอยู่ชั้น ม.1 แต่ตอนเรียนอยู่ชั้น ป.4 ยังไม่เคยรู้เรื่องแบบนี้
นอกจากนี้ ที่น่าหดหู่ใจไปมากกว่าก็คือ ตนได้รับข้อมูลจากญาติของเด็กว่า ตัวพ่อของเด็กเองมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดเป็นประจำ เด็กเล่าให้ญาติฟังว่า บางครั้งก็เสพยาต่อหน้าของ ด.ญ.อ้อย ก่อนจะข่มขืน
ส่วนแม่ของเด็กยังไม่ทราบแน่ชัดว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ทราบเพียงแยกทางกันไปกับครอบครัว ซึ่งตอนนี้กำลังตรวจสอบว่าหากมีชีวิตอยู่ จะอยู่ที่ไหน เพราะเด็กมีความประสงค์อยากไปอยู่กับแม่มาก
ด้าน พ.ต.อ.ณรงค์ ลักษณะวิมล ผกก.สภ.เมืองกระบี่ กล่าวว่า ตอนนี้ต้องให้เด็กได้รับการพักและเยียวยาจิตใจจากนักจิตวิทยาของบ้านพักเด็กก่อน คาดว่าสัปดาห์หน้าจะประสานสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำเด็ก รวมถึงเชิญญาติ และผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมทั้งรอผลตรวจร่างกายของเด็กผู้เสียหาย ว่ามีร่องรอยการข่มขืนหรือไม่ หากพบมีการกระทำตามที่กล่าวหา ก็ต้องขอหมายจับเพื่อตามจับตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป