ทนายโป้งช่วยด้วย! ผัวจำนำรถถูกนายทุนเชิดรถไปขาย เมียถูกเอเจนซีหลอกอ้างพาไปทำงาน ตปท. สูญเงินหลักเเสน ผ่านมา 7 เดือน ยังไม่ได้ไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (6 ก.พ.) ที่ชมรมทนายความจิตอาสา ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นายองอาจ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี พร้อมด้วย น.ส.มะลิ (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี เจ้าของบริษัท กล่องเมล่อน ฐานรองเมล่อน
สองสามีภรรยา เดินทางเข้าพบ นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2565 นายองอาจ นำรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3140 กรุงเทพมหานคร ไปจำนำกับ นายแชมป์ (สงวนชื่อนามสกุล) เป็นจำนวนเงิน 70,000 บาท คิดดอกเบี้ย 10 เปอร์เซ็นต์ เสียดอกเบี้ยเดือนละ 7,000 บาท จ่ายค่าดอกเบี้ยมาเป็นเวลา 5 เดือน โดยนายแชมป์เป็นคนมารับรถกระบะคันดังกล่าวที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านวงศ์สว่าง
จากนั้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม 66 ที่ผ่านมา นายองอาจ ได้นำเงินต้นจำนวน 70,000 บาท ไปไถ่รถคืน แต่คนรับจำนำกลับบอกว่ารถไม่อยู่ ถูกนำไปขายแล้ว จนถึงขณะนี้ยังหาคนรับผิดชอบไม่ได้ ซึ่งรถกระบะคันดังกล่าวยังค้างชำระกับไฟเเนนซ์อยู่เป็นจำนวนเงิน 520,000 บาท เบื้องต้น ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ประชาชื่น กลัวคดีไม่คืบหน้า
ส่วน น.ส.มะลิ ถูกเอเจนซีหลอกว่าสามารถพาไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลียได้ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวน 110,000 บาท ผ่านไป 7-8 เดือน ก็ยังไม่ได้ไป โดยอ้างวีซ่าไม่ผ่าน พอทวงเงินคืนก็ผัดวันประกันพรุ่ง ส่อไม่ได้คืน
ขณะเดียวกันสองสามีภรรยาได้เปิดใจกับทีมข่าวว่า “เคยคิดสั้นฆ่าตัวตาย รู้สึกท้อกับปัญหาที่เข้ามารุมเร้า แต่เป็นห่วงลูก เป็นห่วงคนข้างหลัง จึงต้องจำใจก้มหน้าใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ” หวังให้ทนายโป้งช่วยติดตามเรื่องคดีความ
ด้าน ทนายโป้ง กล่าวว่า เคสนี้ต้องเเบ่งเป็น 2 เรื่อง สำหรับฝ่ายชาย เป็นเรื่องของการนำรถไปจำนำพอครบกำหนดไถ่ถอนนำรถกลับคืนมา ก็ได้รับแจ้งจากคนที่รับจำนำว่า รถถูกขายไปแล้ว กรณีนี้เป็นความผิดคดีอาญา ข้อหายักยอกทรัพย์ เบื้องต้น ผู้เสียหายได้แจ้งความไว้แล้วถ้าคดีไม่มีความคืบหน้า ตนจะไปช่วยติดตามให้ที่ สน.ประชาชื่น
ก็ขอฝากเรื่องนี้กับพนักงานสอบด้วย ถ้าหากประชาชนไปแจ้งความร้องทุกข์ ก็ช่วยรับแจ้งความ รีบสอบสวน เพราะเรื่องรถมันเคลื่อนย้ายกันง่าย ภายในไม่กี่ชั่วโมงรถอาจจะเคลื่อนย้ายไปต่างประเทศแล้ว
เท่าที่สอบถามผู้เสียหายคาดว่ารถน่าจะออกไปประเทศเพื่อนบ้านแล้ว จะออกไปด้วยช่องทางธรรมชาติหรือช่องทางอะไรก็แล้วแต่ เพราะรถคันนี้มีเอกสารครบทุกอย่าง ถ้าหากคนที่รับจำนำมีเจตนามาหลอกตั้งแต่แรกจะเข้าข่ายฉ้อโกง หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าจะเข้าข่ายยักยอกทรัพย์หรือฉ้อโกง
ตนขอฝากสองหน่วยงานหลักๆ คือ พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ช่วยเร่งดำเนินการสืบสวน สอบสวน หารถยนต์คันดังกล่าวและหาตัวผู้กระทำความผิดมารับทราบข้อกล่าวหา และหน่วยงานที่เกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์ของ สตช.ช่วยเร่งรัดติดตามรถด้วย เพราะตนรู้สึกสงสารต้องผ่อนรถแต่รถไม่มี
ส่วนของฝ่ายหญิง นำเงินที่ได้จากการจำนำรถไปให้บุคคลที่อ้างว่าเป็นเอเจนซี จัดหาคนไปทำงานต่างประเทศได้ ซึ่งผ่านไป 7-8 เดือน ก็ยังไม่ได้ไป แบบนี้เข้าข่ายฉ้อโกงชัดเจน และความผิดอีกอย่างหนึ่งคือเป็นตัวแทนนายหน้าจัดหาคนไปทำงานต่างประเทศโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน เรื่องนี้มีการโอนเงินกันที่พัทยา ก็ต้องไปแจ้งความที่ สภ.พัทยา ขอฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พัทยา ช่วยเร่งรัดติดตามด้วย ทั้งผัวทั้งเมีย เสียทั้งรถเสียทั้งเงิน น่าสงสารมาก