ตำรวจกาฬสินธุ์ คุมตัวหลานฆ่าน้าเขยทำแผน อ้างถูกขู่ฆ่าพ่อแม่ก่อนใช้เหล็กชะแลงตีหัวดับ
จากกรณีนายพลากร อายุ 36 ปี พนักงานโรงงานลวดมัดปากถุงขนม ลวดมัดปากถุง อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 6 ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหา เป็น หลานฆ่าน้าเขย โดยใช้เหล็กชะแลงกระหน่ำตีศีรษะนายบุญเพิ่ม อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ต.ศรีสุข อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เมื่อคืนวันที่ 9 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นากุง อ.ยางตลาด ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาสงบสติอารมณ์และสอบปากคำที่โรงพัก ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 เมษายน 2564 พ.ต.อ.แมน ศิริฉาย ผกก.สภ.นากุง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ปรีชา ดีสวนโคก พนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.นากุง คุมตัวผู้ต้องหา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพและชี้จุดเกิดเหตุ ท่ามกลางการควบคุมอย่างใกล้ชิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากมีชาวบ้านมามุงดูเป็นจำนวนมาก
โดย นายพลากร รับสารภาพและอ้างว่า ตนเห็นนายบุญเพิ่มน้าเขยซึ่งมีอาการเมาสุรา ทะเลาะกับนางยุพรรณน้าสาว ก่อนที่จะเห็นนางยุพรรณวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากตน เนื่องจากถูกนายบุญเพิ่มทำร้ายร่างกายโดยการบีบคอ พอนายบุญเพิ่มวิ่งตามนางยุพรรณมาหาตน นายบุญเพิ่มกลับพูดจาข่มขู่ว่าจะฆ่าพ่อกับแม่ของตนอีกด้วย ตนจึงเกิดบันดาลโทสะ วิ่งเข้าไปหยิบเหล็กชะแลงในบ้านมาตีนายบุญเพิ่มจนเสียชีวิตดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.แมน ศิริฉาย ผกก.สภ.นากุง กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายพลากร ผู้ต้องหา ยังให้การวกวน ทั้งนี้ อาจมีผลมาจากผลกระทบขาดยาระงับประสาท และไม่ได้กินยาต่อเนื่อง แต่ก็รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือทำร้ายจริง โดยใช้เหล็กชะแลงกระหน่ำตีนายบุญเพิ่ม 3 ครั้ง โดยตีที่หน้าอก 2 ครั้ง ก่อนที่นายบุญเพิ่มจะล้มลงและที่ท้ายทอยอีก 1 ครั้ง ทำให้นายบุญเพิ่มเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมได้นำตัวนายพลากรไปฝากขังที่ศาล จ.กาฬสินธุ์ต่อไป
ขณะที่ นายไฉน อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 6 บ้านนาแก ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พ่อนายพลากร กล่าวว่า นายพลากรมีอาการผิดปกติทางจิตมาเกือบ 2 ปีแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยเสพยาเสพติดกับเพื่อนและมีอาการหลอน จนมีอาการทางประสาท ปัจจุบันเป็นคนไข้ของโรงพยาบาลยางตลาด แต่กินยาไม่ต่อเนื่อง เพราะบางครั้งก็ลืมกิน ที่ผ่านมานายพลากรกับนายบุญเพิ่มน้าเขยไม่เคยมีเรื่องทะเลาะ หรือผิดใจกันเลย เคยไปรับจ้างด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ความสัมพันธ์ก็อยู่กันดีๆตามประสาญาติพี่น้อง ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเกิดเหตุการณ์ลงมือลงไม้ทำร้ายกันถึงกับเสียชีวิตอย่างนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ตนตกใจ เสียใจ คิดอะไรไม่ออก เพราะอยู่ดีๆลูกชายก็ลงมือฆ่าน้าเขยตาย ซึ่งศพนายบุญเพิ่มนั้น ญาติได้นำไปฝังที่ป่าช้าประจำหมู่บ้านตามประเพณีเรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ด้าน นางบุญศรี อายุ 65 ปี แม่นายพลากร กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 ทราบจากเพื่อนบ้านว่าเห็นนายบุญเพิ่มกับนางยุพรรณทะเลาะกัน ขณะที่นายพลากรเพิ่งกลับมาจากช่วยงานศพเพื่อนบ้านและรู้สึกหิวข้าว อยากกินส้มตำ จึงบอกนางยุพรรณน้าสาวไปเก็บลูกมะละกอมาตำเป็นอาหารกลางวันกินด้วยกัน แต่นายบุญเพิ่มยังตามทะเลาะกับนางยุพรรณไม่เลิก ซึ่งทั้งสองคนยังทะเลาะกันจนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 18.30 น. นายบุญเพิ่มได้บีบคอนางยุพรรณ ก่อนที่นางยุพรรณจะดิ้นหลุดและวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากนายพลากร ก่อนที่นายพลากร จะวิ่งเข้าไปหยิบเหล็กชะแลงมาตีนายบุญเพิ่มเสียชีวิตคาที่ดังกล่าว ในส่วนของคดีก็สุดแท้แต่กระบวนการยุติธรรมจะพิจารณา ส่วนตนในฐานะหัวอกคนเป็นแม่ก็คงได้แต่ทำใจ