นายอำเภอเมืองปทุมธานี โร่ขอโทษลูกสาวและครอบครัว ปมให้แบกพ่อป่วยติดเตียงทำบัตรประชาชน สุดท้ายพ่อเสียชีวิตอีกวัน เชือกมัดกล่องพัสดุ เชือกขาวเกลียว
จากกรณีมีหญิงสาวรายหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊กเล่าเรื่องคุณพ่อที่กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงแล้วบัตรประชาชนหมดอายุ แต่อำเภอให้แบกพ่อป่วยติดเตียง ไปทำบัตรประชาชนใหม่ ทั้งที่บอกแล้วผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ สุดท้ายพ่อเสียชีวิตอีกวันหลังจากทำบัตร โดยเจ้าของโพสต์ยังได้วิพากษ์วิจารณ์ระบบราชการไทยอีกด้วย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
สลด พ่อป่วยติดเตียง ลูกจำใจแบกไปทำบัตรประชาชนที่อำเภอ แค่ข้ามวันเสียชีวิต
ล่าสุด วันนี้ (29 มิ.ย.) นายธรรมนูญ แจ่มใส นายอำเภอเมืองปทุมธานี ได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านของผู้ที่โพสต์ และได้พบกับคุณปรางทอง ใจบุญ ลูกสาวนายสมหมาย ใจบุญ อายุ 66 ปี คุณพ่อที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่ต้องนำพ่อที่ป่วยติดเตียงไปทำบัตรประชาชนที่ว่าการอำเภอเมืองปทุมธานี และกลับมาที่บ้านได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เสียชีวิตลง
ซึ่งนายธรรมนูญ แจ่มใส นายอำเภอเมืองปทุมธานี ได้ยกมือไหว้ขอโทษทางลูกสาวและภรรยาผู้เสียชีวิต กับเรื่องที่เกิดขึ้นและจะนำไปปรับปรุงแก้ไข ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ทำงานบกพร่องเรื่องนี้ก็ต้องมีมาตรการลงโทษ ซึ่งทางตนจะได้ทำหนังสือชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำบัตรประชาชนและไม่ได้มีการกล่าวอ้างเรื่องที่ดินแต่อย่างใด และจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด
วันหนึ่งมีประชาชนมาติดต่อกันเยอะมาก ซึ่งตนเองมาอยู่ที่อำเภอเมืองปทุมธานีได้ 5 เดือน ก็พยายามปรับปรุงแก้ไขเรื่องต่างๆ ไปเรื่อยๆ รวมทั้งสถานที่ด้วยส่วนเรื่องบัตรคิวให้รับถึงเวลา 17.00 น.
และให้เคสนี้เป็นเคสสุดท้ายเพราะเป็นความเสียหายระดับประเทศ ซึ่งในการประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านแต่ละเดือน เราได้กำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านตลอด เรื่องผู้ป่วยติดเตียงเวลาทำบัตรประชาชน ทางอำเภอก็ต้องเข้าไปทำให้เขาอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
ด้าน คุณปรางทอง ใจบุญ ลูกสาวของผู้เสียชีวิต ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ตนเองพาแม่ไปทำบัตรประชาชนที่อำเภอเมืองปทุมธานี และได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่า พ่อตนเองป่วยติดเตียงจะทำบัตรประชาชนต้องทำอย่างไรบ้าง
ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าต้องแบกมาซึ่งตนเองก็ย้ำไปว่าพ่อป่วยติดเตียงนะ เขาก็บอกว่ายังไงก็ต้องเอาพ่อมาที่อำเภอทุกเคส ทุกกรณี ไม่ว่าจะป่วย หรือนั่งรถเข็นก็ต้องมา ซึ่งตนเองก็ติดต่อรถกู้ภัยพาพ่อไปทำบัตรประชาชน ซึ่งไม่มีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง
จากนั้นก็พาพ่อกลับมาที่บ้าน ช่วงเวลาเช้ามืดพ่อก็เสียชีวิตในวันที่ 8 มิถุนายน 2566 เพราะพ่อต้องใช้บัตรประชาชนในการเสียบบัตรเพื่อเบิกค่ารักษา และอยากให้เคสพ่อเป็นเคสสุดท้ายไม่อยากให้เกิดปัญหาขึ้นอีก