พระสงฆ์เกิดคลั่งแทงพระร่วมวัดเดียวกัน ระหว่างมาแสวงบุญงานบุญใหญ่วัดพระธาตุพนม พบมีอาการทางประสาท ให้การอ้างว่าอีกฝ่ายคิดร้าย นำยามนต์ดำมาให้กินตลอด
(17 ก.พ.) ร.ต.อ.ธีระพงษ์ ท่าโสม รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาท เป็นพระสงฆ์ก่อเหตุแทงกัน ภายในศาลาเมรุ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนมอยู่ติดกับร้าน ขาย เครื่องซีลสูญญากาศ เครื่องซีลปากถุง จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนาวา และตำรวจชุดสืบสวน เข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุบริเวณศาลาเมรุ ด้านหลังวัดพระธาตุพนม ซึ่งเปิดให้พระภิกษุสงฆ์ เดินทางมาพักเพื่อร่วมงานบุญประเพณี ในช่วงงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ระหว่างวันที่ 12-20 กุมภาพันธ์ 2562 โดยในที่เกิดเหตุพพร่างพระสงฆ์มรณภาพจมกองเลือดอยู่
จากการตรวจสอบสภาพศพ พบร่องรอยถูกแทงด้วยของมีคม ตามร่างกายบริเวณหน้าอกและท้อง รวมถึง 12 แผล ทราบชื่อภายหลังคือ พระทองพูน อายุ 57 ปี
ส่วนพระอีกรูปที่ก่อเหตุยังอยู่ในบริเวณดังกล่าว ทราบชื่อคือ พระสถิตย์ อายุ 30 ปี เป็นพระลูกวัดแห่งหนึ่งใน อ.บุณทริก จ.อุบลราชธานี ยังอยู่ในอาการคุมคลั่งและถืออาวุธมีดยาว ประมาณ 15 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่จึงได้พยายามควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ และนำไปสอบสวน ที่ สภ.ธาตุพนม พร้อมได้นำตัวไปลาสึกขา
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนผลตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด แต่ตรวจสอบพบประวัติเคยถูกจับกุมข้อหาเสพยาบ้า เมื่อปี 2554 โดยทางตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุหลักน่าจะมาจากอาการทางประสาท เนื่องจากในช่วงการสอบสวน ผู้ต้องหายังพูดให้การวกไปวนมาอย่างผิดปกติ
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ขณะพระสงฆ์หลายรูปที่เดินทางมาร่วมแสวงบุญช่วงงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ใกล้วันมาฆบูชา โดยมาพักรวมกันบริเวณศาลาเมรุด้านหลังวัด จากนั้นพระผู้ก่อเหตุได้เกิดอาการคุ้มคลั่ง แบบไม่ทราบสาเหตุ แล้วเกิดการทะเลาะวิวาทกับพระสงฆ์ที่เสียชีวิต
จากนั้นได้ใช้มีดปลายแหลมยาวที่พกมาด้วย จ้วงแทงแบบไม่ยั้งถึง 12 แผล โดยที่ไม่มีใครเข้ามาห้ามได้ทัน ทำให้พระอีกรูปมรณภาพในทันที ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะมีอาการทางประสาท เป็นเหตุให้ควบคุมตัวเองไม่ได้ และอาจจะมีปัญหาทะเลาะกับพระอีกรูป ก่อนจะลงมือก่อเหตุในครั้งนี้
ทั้งนี้ พระสถิตย์ ได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุยอมรับว่าบาดหมางกับพระอีกรูป เพราะว่าจะมาทำร้าย และคิดไม่ดีกับตนเองมาตลอด ต่างเป็นพระลูกวัดเดียวกัน อ้างว่าอีกฝ่ายนำยามนต์ดำมาให้กินหลายครั้ง ทำให้ตนรู้สึกว่าง่วงตลอด จึงมั่นใจว่าพระรูปดังกล่าวจะพยายามทำร้าย กระทั่งล่าสุดไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจฆ่าด้วยการนำมีดจ้วงแทง เพราะหากไม่ลงมือสักวันหนึ่ง ก็จะต้องถูกฆ่าก่อน