น้องเรียกพี่อดีตทหารพรานมาช่วยเคลียร์ปัญหาหัวใจ ชอบสาวคนเดียวกันกับตำรวจ พี่ชักปืน 9 มม. ยิง ส.ต.อ.ดับ 1 เจ็บ 1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.30 น. วานนี้ (29 เม.ย.) ร.ต.อ.สมหวัง ปรางประโคน พนักงานสอบสวน สภ.ปอภาร อ.นาเชือกจ.มหาสารคาม รับแจ้งว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนยิงกันเสียชีวิต ที่บ้านหลังหนึ่ง บ้านปอภาร หมู่ 1 ต.ปอภาร อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม ทราบชื่อผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือ ส.ต.อ.พิชิต ถูกยิงที่ร่างกายจำนวนหลายนัด และ ส.ต.อ.อานนท์ ถูกยิงที่แขนขวาจำนวน 1 นัด
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งนำผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลนาเชือก อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม ต่อมา ส.ต.อ.พิชิต มีอาการบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ส่วน ส.ต.อ.อานนท์ แพทย์ได้ทำการผ่าตัดรักษาจนปลอดภัยแล้ว
ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายยงค์วิวัฒน์ หรือ บอย อายุ 34 ปีเจ้าของร้านขายกล่องใส่ต้นไม้ กล่องยาว ได้เข้ามอบตัวที่ สภ.ปอภาร ในเวลาต่อมา
โดยตำรวจได้แจ้งข้อหาฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่, ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวไปฝากขังที่ สภ.ปอพาน และนำส่งฝากขังต่อที่ศาล จ.มหาสารคาม
จากการสอบสวนชาวบ้านละแวกที่เกิดเหตุ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ส.ต.อ.วิชิต ได้ไปหา นางสาวแตน (นามสมมุติ) หญิงสาวที่กำลังคบหาดูใจกัน ที่บ้านหลังเกิดเหตุ เพื่อรับประทานอาหารด้วยกัน แต่พบว่า นายเบียร์ ซึ่งเป็นน้องชายของมือปืน ขับขี่รถจักรยายนต์มาส่งนางสาวแตน ทำให้ ส.ต.อ.พิชิต ไม่พอใจจึงได้โต้เถียงกัน แล้วได้แยกย้าย โดยนายเบียร์ได้กลับบ้านไป
จากนั้น ส.ต.อ.พิชิต ได้โทรศัพท์ ไปหา ส.ต.อ.อานนท์ ผู้บาดเจ็บ ให้มาหาที่บ้านที่เกิดเหตุ ต่อมานายเบียร์ได้ย้อนกลับมาที่บ้านอีกครั้ง เพื่อพูดคุยตกลงกันกับ ส.ต.อ.พิชิต แต่ตกลงกันไม่ได้ ก่อนที่นายยงค์วิวัฒน์ หรือ นายบอย ที่เดินทางมายังที่เกิดเหตุใช้อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. ยิง ส.ต.อ.พิชิต และ ส.ต.อ.อานนท์ จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ก่อนที่มือปืนจะเข้ามอบตัว
จากการสอบถาม นางจันทร์ศรี เพื่อนบ้านใกล้เคียง เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ได้ยินเสียงปืนดังมาจากข้างหลังบ้าน จำนวน 3 นัด จึงวิ่งลงมาดู แต่ระหว่างวิ่งมาดูก็ต้องหยุดอยู่ตรงกำแพง เพราะได้ยิงเสียงปืนดังต่อเนื่องกันอีกหลายนัด
เมื่อสิ้นเสียงปืนจึงลองเดินไปดูจุดที่เกิดเหตุพบก็ไม่พบคนยิง แต่เห็นผู้ตายที่คสดว่าคงวิ่งหนีออกจากบ้านแล้วลงไปทุ่งนา นอนนิ่งอยู่ และทราบว่าได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งนี้ ตนตกใจกลัวมากเพราะเป็นเหตุความรุนแรงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในหมู่บ้าน
นอกจากนี้ ยังรู้สึกเสียดายที่ ส.ต.อ.พิชิต ผู้ตาย ที่เป็นทั้งข้าราชการตำรวจและเป็นคนที่นิสัยดี ที่ผ่านมาตนไม่เคยเห็นผู้ตายเคยมีปากเสียงกับใคร เพราะเท่าที่รู้จักถือว่าเป็นคนนิสัยดี ช่วยเหลือและร่วมพัฒนาหมู่บ้านมาโดยตลอด
ด้าน เพื่อนตำรวจ เล่าว่า ผู้ตายเป็นคนที่นิสัยดี เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ที่ผ่านมาผู้ตายเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือและดูแลเพื่อนร่วมงานด้วยดีมาตลอด ไม่นึกว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้จะเกิดขึ้น
ส่วน นางบัวไข ย่าของมือปืน เล่าว่า มือปืนซึ่งเป็นหลาน อดีตเคยทำงานเป็นทหารพรานอยู่ภาคใต้ ส่วนน้องชายทำงานที่กรุงเทพฯ และเพิ่งกลับเข้ามาหมู่บ้านด้วยกัน เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา สำหรับพี่น้องคู่นี้รักใคร่กันมาก ดูแลกันมาโดยตลอด เพราะพ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ยังเด็ก โดยเฉพาะพี่ชายซึ่งเป็นมือปืนยิงตำรวจ ยอมรับว่าเป็นคนใจร้อน คาดว่าที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ