1 ปีผ่านไปกับชีวิตใหม่ ‘พยาบาลอุ้ม’ จากอุบัติเหตุรถชน ถอดท่อที่คอ-เริ่มฝึกยืน

1 ปีผ่านไปกับชีวิตใหม่ ‘พยาบาลอุ้ม’ จากอุบัติเหตุรถชน ถอดท่อที่คอ-เริ่มฝึกยืน แต่ใส่เครื่องควบคุมการเต้นของหัวใจ เนื่องจากหัวใจเต้นช้า

จากอุบัติเหตุรถบรรทุกชนกับรถพยาบาลของโรงพยาบาลอุ้มผาง มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย เหตุเกิดวันที่ 14 ม.ค.65 บริเวณถนนสายอ.แม่สอด-อ.อุ้มผาง หน้าร้านขาย ถุงขยะ ถุงใส่ขยะ อ.อุ้มผาง จ.ตาก ในเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ น.ส.ปุณยวีร์ ศรีดวงแปง หรืออุ้ม พยาบาล ร.พ.อุ้มผาง จ.ตาก ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนถูกส่งตัวมารับการรักษาต่อที่รพ.ราชวิถี จนอาการเริ่มดีขึ้นเป็นระยะๆ

สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 20 ม.ค.65 เพจ เรื่องเล่าหมอชายแดน โพสต์ถึงพยาบาลอุ้ม 1 ปีที่ผ่านไปกับชีวิตใหม่ โดยระบุว่า

ย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่น้องอุ้มพยาบาลโรงพยาบาลอุ้มผาง ประสบอุบัติเหตุในการปฏิบัติหน้าที่รีเฟอร์ส่งผู้ป่วยบนถนน สายแม่สอด-อุ้มผาง ตอนนี้ก็ครบ 1 ปีแล้วที่น้องอุ้มได้รับการผ่าตัดและฟื้นฟู โดยรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอดในช่วงแรก หลังจากที่อาการทรงตัวได้ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี โดยความช่วยเหลือจากกรมการแพทย์ (โดยเฉพาะท่านรองอธิบดี นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด ท่านช่วยเหลือประสานงานให้โดยตลอด)

สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นต้นสังกัด ทางสำนักพระราชวังที่รับน้องอุ้มเป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ พระราชทานความช่วยเหลือกับน้องอุ้มและครอบครัว ที่จะลืมไม่ได้เลยคือ ท่านผู้อำนวยการ คณะแพทย์ พยาบาล ทีมกายภาพบำบัด และทุกหน่วยงานของโรงพยาบาลราชวิถีที่ดูแลน้องอุ้มเป็นอย่างดี

ตอนนี้น้องอุ้มถอดท่อที่คอ (Tracheostomy) ได้แล้ว สามารถหายใจได้เองเป็นปกติ ได้รับการใส่เครื่องควบคุมการเต้นของหัวใจ เนื่องจากหัวใจเต้นช้า อันเนื่องมาจากความผิดปกติของสมอง กินอาหารทางสายยางอยู่ ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงใบหน้าสวยงามแบบในรูปนี้เลย สามารถขยับร่างกายด้านขวาได้ ทำตามคำสั่งง่ายๆ ได้เช่น ยิ้ม ชูสองนิ้ว นั่งได้และกำลังฝึกยืน นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก เพราะในวันนั้นพวกเราถอดใจคิดว่าน้องอุ้มมีโอกาสเสียชีวิตสูงมากและมากที่สุดอาจเป็นได้เพียงเจ้าหญิงนิทรา

แม้ว่าจะมีความโชคร้ายเกิดขึ้น ยังมีความโชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากทุกท่านทั้งเรื่องการรักษาและร่วมบริจาคทรัพย์ช่วยเหลือผ่านบัญชีธนาคารกลุ่มการพยาบาลโรงพยาบาลอุ้มผาง โดยตั้งเป็นกองทุนใช้ชื่อว่า “กองทุนพี่ช่วยน้อง” มีการแต่งตั้งกรรมการ ได้แก่ หัวหน้าพยาบาล หัวหน้าฝ่ายต่างๆ และมีบิดา มารดาร่วมเป็นกรรมการ มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการดูแลระยะยาวของ นส.ปุณยวีย์ ศรีดวงแปง ตั้งแต่เปิดรับเงินช่วยเหลือ จนถึงวันที่ 28 ก.พ. 2565 เป็นเงินจำนวน 1,631,587.81 บาท เงินในส่วนนี้ได้ใช้จ่ายสำหรับการดูแลรักษา ค่าเดินทางและค่าที่พักของครอบครัวในการไปเฝ้าไข้ และไว้ใช้จ่ายระยะยาว ทางโรงพยาบาลอุ้มผางโดยท่านผอ.นพ.วรวิทย์ก็ได้เตรียมทำห้องเพื่อดูแลน้องอุ้มหากเดินทางกลับภูมิลำเนาในอนาคตค่ะ มาร่วมเป็นกำลังใจให้น้องอุ้มกันนะคะ

จึงขออัปเดตเรื่องราวการต่อสู้ของน้องอุ้มตลอด 1 ปีที่ผ่านมาเพื่อให้ทุกท่านได้ทราบความเคลื่อนไหว หากน้องพร้อมเมื่อไหร่คงจะได้มาพบปะทุกท่านด้วยตัวเองเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยท่านอื่นและครอบครัวที่กำลังท้อแท้เกี่ยวกับการเจ็บป่วยได้มีแรงสู้ต่อเหมือนน้องอุ้มและครอบครัว ที่สู้กันสุดๆจนมีวันนี้วันที่ดีกว่าเมื่อวานค่ะ

Previous post บอกว่าไม่ได้ทำ! หนุ่มวัย 17 น้อยใจถูกกล่าวหาขโมยของเพื่อนบ้าน ผูกคอตายคาห้องนอน
Next post หนุ่มควงเมีย บุกเคลียร์รักสามเส้า จ่อยิงกิ๊กสาวแล้วยิงตัวเองเสียชีวิต