นักแสดงตัวแม่ เอ้ ชุติมา ที่วันนี้ควงเพื่อนสาว บุ๋ม ตรีรัก มาย้อนเล่าเรื่องราว จุดเริ่มต้นความสนิท ที่ทะเลาะกันหวิดมีเรื่องตบกันมาก่อน พร้อมเปิดความสนิทขั้นสุด แถมยังมีปมในใจกว่า 20 ปีที่ยังไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน 31 ที่มี หนิง ปณิตา และ เบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
หลายคนไม่ทราบว่าคู่นี้สนิทกันมา 35 ปี?
เอ้ : บุ๋มแรกๆ ถ้าเขาไม่ยิ้ม เขาจะดูเหมือนดุ
เจอกันครั้งแรกเมื่อ 35 ปีที่แล้วรักกันเลยใช่ไหมคะ เจอกันที่ไหน ?
บุ๋ม : พี่เจอเขาก่อนในห้องน้ำ ตอนนั้นพี่ไปเล่นสเก็ตวัยรุ่นยุค 90 พี่ไปเล่นหลังเลิกเรียน เขาก็ไป แต่อยู่คนละโรงเรียน
ยังไม่เข้าวงการบันเทิง ?
บุ๋ม : ยังเลย พี่อยู่ในห้องน้ำแล้วมีเสียงผู้หญิงแจ่นมาก เขาเป็นคนที่หัวเราะเสียงดัง เราอยู่ในห้องน้ำ ชะนีนี้ทำไมหัวเราะเสียงดังมาก แต่พอออกมาสวยว่ะ นางสวย นางผอม หน้าคม ผมยาว เราก็ล้างมือแอบมอง เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเราหรอก เพราะตอนนั้นพี่ยังไม่สวย
ตอนนั้นเชิดไหม ?
บุ๋ม : ไม่ เขาเป็นคนนิ่งๆ เขาก็อยู่กับเพื่อนของเขา เราก็เดินออกมาบอกเพื่อน เมื่อกี้เจอผู้หญิงคนนึงเจี๊ยวจ๊าวน่าดู แต่นางสวยมาก เพราะพี่เป็นคนตรงๆ สวยก็บอกว่าสวย แล้วก็หายไป มาเจออีกทีเขาเดินมาหาพี่ ตอนนั้นต่างคนต่างเข้าวงการแล้ว ก็นั่งเชียร์เขาทางทีวีตอนที่เขาประกวดนางสาวไทย ปี30 คือเพื่อนพี่ไม่ถูกกับเขา ตามประสาผู้หญิงสวยๆ ตอนนั้นพี่เป็นดาวนิเทศ ม.กรุงเทพ นางก็เป็นดาว ม.หอการค้า แล้วเพื่อนเราก็อยู่หอการค้า ตามภาษาผู้หญิงนิดนึง เม้าท์กันไปมา เพื่อนเราไม่ชอบเขา
เอ้ : ไม่ใช่ เพื่อนเธอเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้าย คิดตามเลยผู้หญิงที่โวยวายอย่างเอ้ ไม่แรด ตรงไปตรงมา แต่ผู้หญิงเงียบฟาดเรียบนะจ๊ะ คืออย่ามองคนจากภายนอก บุคลิกคนเราอาจจะดูแรง แต่จริงๆไม่ใช่ เพื่อนเธอก็ตั้งป้อมเกลียดฉันเลย ผู้หญิงแรงแบบนี้จะต้องแรด
บุ๋ม : แล้วหลังจากนั้นก็มาเจอกันที่คอนเสิร์ต นางก็เดินมาเลย บุ๋มขอถามหน่อยสิ ฉันได้ข่าวว่าเธอไม่ชอบฉันหรอ เรารู้จักกันด้วยหรอ ทำไมเธอไม่ชอบฉัน
ตอนนั้นพี่เอ้เป็นนางสาวไทยแล้ว ?
บุ๋ม : นางเข้าช่อง7 เรียบร้อย ดังแล้ว แผลเก่า พี่ก็เป็นแม่นาค ช่อง3
เอ้ : ก็ตามเจอที่งานนั้น ก็ถามกันว่าไม่ชอบเพราะอะไร แล้วก็ไปตามเจอที่งานรับโทรศัพท์การกุศลอีก คือตามเคลียร์กันสองรอบ
แต่ก่อนจะมาเจอกันงานรับโทรศัพท์ พี่เอ้ตามหาตัวพี่บุ๋มอย่างหนัก?
เอ้ : ตามล่า 2 เดือนเต็มๆ ตามไปเคลียร์ว่าไม่ชอบฉันเพราะอะไร ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องพูดถึงกัน
ไม่กลัวเป็นข่าวเหรอ ?
เอ้ : ไม่กลัวเลย เราไม่ผิด เราไม่ได้ไปตบเขาไง แค่ไปคุย ไปเคลียร์ ถ้าเขาแรงมาก็แรงกลับ ก็เรียกเขาออกมาคุย นี่ก็กลัวที่ไหนออกมาเลย ออกมาถามคำแรก
บุ๋ม : เรียกฉันทำไม ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าเขารู้ เราคุยเล่นตามประสาผู้หญิงในกอง พูดถึงเอ้ ชุติมา ขึ้นมา เออเราไม่ค่อยชอบเขา เราพูดแค่นี้แต่เราไม่คิดว่าจะถึงหูเอ้ เราไม่คิดอะไรว่าเขาจะรู้สึกหงุดหงิด ด้วยความเป็นประโยคบอกเล่า ฉันไม่ได้ผิดอะไรนี่หว่า ก็เป็นคนแมนคนนึงเหมือนกัน เรียกฉันทำไม
วันนั้นมีอะไรอีกไหม ?
เอ้ : ไม่พูดหยาบกันเลย แต่เสียงดัง ตาแกออก ก็โดนพวกพี่ๆ ลากไปอยู่ห้องแต่งตัว เคลียร์เสียงดังมาก ต่างคนต่างไม่ยอม
จริงๆตอนนั้นพี่ไม่ชอบอะไรกัน ?
เอ้ : ที่พี่โกรธเขา คือเขาไปฟังจากเพื่อน ไปฟังเรื่องเราที่ไม่ใช่เรื่องจริง แล้วก็มาคิดเองว่าเราเป็นคนอย่างนั้นอย่างนี้
บุ๋ม : เข้าห้องเพื่อน เพื่อนไม่ชอบก็ไม่ชอบบ้าง แต่จริงๆ พี่ผิดนะ
วันนั้นพี่บุกไปไปกับใคร ?
เอ้ : เพื่อนอยู่ข้างล่าง พี่ไปคนเดียว เป็นคนอย่างนี้อยู่แล้ว ตั้งแต่เล็กจนโต ถ้าไม่ผิดจะลุยคนเดียว ถ้าจะตีก็ตีคนต่อคน
แต่ภาพลักษณ์ของนางเอกในสมัยนั้นเป็นนางร้ายไม่ได้เลย ?
เอ้ : เป็นคนตรง คาใจ ถ้าเราไม่ผิดมาด่าเราทำไม ไม่เข้าใจ
แสดงว่าเขียนจบวันนั้นแน่นอน ?
เอ้ : ไม่ คุยกันเสร็จก็บอกว่าถ้าไม่ชอบกันก็ไม่ต้องพูดถึงกันนะ ดิวกันว่า ต่างคนต่างไม่พูดถึงกัน แล้วก็ให้จบกันไป ถ้าเกลียดกันละครจะไม่รับเรื่องเดียวกัน โชว์ตัวจะไม่เจอกัน ทุกอย่างเคลียร์ชัด จบ
หลังจากนั้นก็มาเล่นหนังด้วยกัน ?
บุ๋ม : โน ไปเจอที่คอนเสิร์ตก่อน ไปเคลียร์กันอีกรอบนึง เพราะต่างคนต่างกลุ่มใหญ่ เราวัยรุ่นในยุคนั้น เราก็มาเป็นกลุ่มเลย เอ้ก็เอาอีก เดินมา บุ๋มฉันไม่ยอมจริงๆนะ ฉันได้ข่าวมาว่าเธอยังไม่จบใช่มั้ย พี่ก็แบบเอาอีกแล้วเว้ย เพื่อนๆ คงคิดในใจ สองคนนี้ไปตบกันข้างหลังแน่ๆ เดินกันไป 15 นาที ฉันไม่เข้าใจ ทำไมๆ เอ้ก็ว่าพี่ พี่ฟังไปฟังมา กูก็ผิดนี่หว่า เออฉันขอโทษ พี่ขอโทษเขาจริงๆ ในเมื่อพี่ไม่ได้มีอะไรกับเขา แต่ว่าเราเข้าข้างเพื่อนเรา พี่ก็บอกโอเค ฉันขอโทษ เอ้ กำลังโมโห ของขึ้น เจอพี่ขอโทษ มันหัวเราะ ถุงคุกกี้ซีลกลาง / ซองคุกกี้ซีล
เอ้ : ถ้ามีคนขอโทษจะขำ ตอนนั้นเพื่อนเราก็เยอะ เป็น 10 คน แล้วเขาก็เป็น 10 คน ถ้าแรงก็แรงทั้งคู่
พอพี่บุ๋มขอโทษแล้วเขาหัวเราะ เรารู้สึกยังไง?
บุ๋ม : พี่ก็ยิ้ม ก็พี่ผิด พี่ขอโทษ โอเคเราดีกันนะ เราผิดเราขอโทษ เอ้ มันก็หัวเราะ เพราะจริงๆเจ้านี่เป็นคนอารมณ์ดี เขาเห็นว่าเราแมนกลับ ขอโทษ แล้วเขาก็ขี้อ้อนไปเลย แบบหน้ามือหลังมือมาก แล้วก็จูงมือกันออกไปสองคน เพื่อนสองกลุ่มงง นึกว่าจะตบกันอยู่ข้างหลัง แต่กลายเป็นเพื่อนกันไปแล้ว
เอ้ : ตอนหลังก็มีคนมาชักชวนเราไปเล่นหนังด้วยกัน
บุ๋ม : เรื่องกระสือกัดปอบ ก็เลยสนิทกันตอนนั้น เพราะว่ากินนอนอยู่ด้วยกัน เป็นอาทิตย์เลย
คนที่เป็นนายทุนทำหนัง คงเห็นกระแสเลยเอาสองคนมาปะกัน?
เอ้ : เขารู้ข่าวดังมาก นางเอกข้ามช่องมีปัญหากัน
แต่พี่ก็รับเล่นน่ะ ?
บุ๋ม : เงินไง
เอ้ : ในฉากมีตบกันด้วยนะ คิดในใจถ้าเล่นจริงกูเอาจริงนะ
บุ๋ม : ตอนนี้สนิทกัน เคลียร์กันแล้ว ไม่งั้นไม่รับเล่นหรอกค่ะ เพราะเป็นคนถ้ารู้ว่าคนนี้ไม่ชอบ จะไม่รับเล่นเลย คือเขาเป็นคนที่สั่งเทคปุ๊บ จะมีเรื่องเล่น เรื่องเล่า แล้วพี่เป็นคนนิ่งๆ ไม่ตลก อยู่ใกล้เขารู้รูกว่าเขาร่าเริง รู้สึกหลงรักเขา หลงรักในความมีเสน่ห์ของเขา เขาเป็นคนตรง คนแรงเหมือนเรา แล้วเขาเป็นคนสวย เราอยู่ด้วยก็มีความสุข
เอ้ : พอคุยกันเขาบอกว่าแกไม่ได้เหมือนที่ทุกคนพูดเลย แกเป็นคนไม่มีสาระอะไรเลย เอาจริงๆ เป็นคนไม่ยุ่งเรื่องใครเลย เหมือนอยู่วงการบันเทิง หูหนวก ตาบอด เป็นใบ้ ไม่ยุ่งเรื่องเพื่อน ไม่ยุ่งเรื่องใคร ไม่นินทาคนลับหลัง มีอะไรไม่ชอบใจเดินถามต่อหน้า
ดวงก็สมพงษ์ให้มาเป็นนักร้องค่ายเดียวกัน ?
เอ้ : ใช่
สมัยก่อนเวลาสนิทกันกิจกรรมของยุคนั้นเขาทำอะไรกัน ?
บุ๋ม : ก็แอบกันไป ดาราในยุคนั้น ไม่ได้ ไม่เรียบร้อย แล้วเรานางเอกทั้งคู่ เราก็ต้องแอบไปกัน
สมัยนั้นเป็นนางเอกทั้งคู่พอมาสนิทกันโดนผู้ใหญ่สั่งห้ามไหม ?
เอ้ : ไม่ห้าม