สิบตรีซิ่ง จยย. ชนเก๋ง ไฟลุกไหม้ ว่าที่เจ้าบ่าวดับคาที่ ในสภาพคอเกือบขาด ส่วนเพื่อนสาวที่นั่งซ้อนท้าย เจ็บสาหัส
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 มี.ค.) เมื่อเวลา 02.00 น. พ.ต.ต.ธีรภาพ ภูขันซ้าย สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ มีรถ จยย. ชนกับรถเก๋ง อยู่ที่บริเวณสี่แยกไฟแดง ข้างเรือนจำกลางอุดรธานี ถนนศรีสุข ตัดกับถนนหมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ทำให้จยย.ไฟลุกไหม้ และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย
ที่เกิดเหตุพบรถ จยย. CFMoto 400NK หมายเลขทะเบียน 965 อุดรธานี ชนเข้ากับรถยนต์ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 7218 อุดรธานี มีรอยชนด้านหน้าซ้าย และกระจกด้านหน้าแตก ทำให้รถจยย.เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นมา เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันดับไฟ
ส่วนคนขับจยย. ทราบชื่อคือ สิบตรี ภมร อายุ 27 ปี เป็นทหารอยู่ที่มณฑลทหารบกที่ 24 ค่ายประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นหญิงสาวที่นั่งซ้อนท้ายรถ จยย. ได้บาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี
ขณะที่คนขับรถเก๋งคือ นายสุวัฒน์ อายุ 54 ปี เจ้าของร้านขาย EPE FOAM โฟมกันรอย ยืนรอตำรวจ ให้การว่า ขับรถเก๋งมาจากบ้านเพื่อน แล้วกำลังจะกลับบ้านพัก พอถึงสี่แยกไฟแดงข้างเรือนจำกลาง ก็ได้มีรถ จยย. เข้ามาชนบริเวณด้านหน้ารถข้างซ้ายอย่างแรง ทำให้รู้สึกมึนหัว ก่อนที่จะออกมาจากรถ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวคนขับรถเก๋งเข้าตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์
ด้าน นายภูมิผา อายุ 22 ปี บอกว่า ผู้ตายอยู่ในกลุ่มขับรถจยย.บิ๊กไบค์ด้วยกัน โดยในช่วงเวลา 23.00 น. ก็นั่งเล่นด้วยกันในสนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี โดยแฟนสาวผู้ตายนั่งรอ สิบตรี ภมร เพราะพาเพื่อนไปทำธุระอยู่ที่โรงพัก หลังจากนั้นก็กลับมา ทั้งคู่ก็ปากเสียงทะเลาะกันแต่ไม่รุนแรง
แล้วผู้ตายก็ได้ขับขี่รถจยย.บิ๊กไบค์ไปส่งเพื่อนที่บ้าน ส่วนแฟนสาวของเขาก็กลับบ้าน มาทราบว่าผู้ชายประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต จึงได้เดินทางมาดู โดยทั้งสองพูดให้ฟังว่ากำลังจะแต่งงานกันเร็วๆ นี้ อีก 2-3 เดือน
พ.ต.ต.ธีรภาพ ภูขันซ้าย สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า รถเก๋งขับมาจากถนนหมากแข้ง หลังเรือนจำกลางอุดรธานี ส่วนรถ จยย. ขี่มาจากถนนศรีสุข ผ่านหน้าโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล พอมาถึงสี่แยกไฟแดง ซึ่งเป็นสัญญาณไฟสีเหลืองกระพริบอยู่ตลอด ทำให้ชนประสานงากันอย่างแรง
เป็นเหตุให้รถ จยย. เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นมา ทำให้คนขับเสียชีวิตทันที ส่วนคนซ้อนท้ายรถจยย. ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งก็จะทำการสอบสวนคนขับรถเก๋งอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้ แพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ ผู้ตายสภาพศพ คอเกือบขาด ตามร่างกายมีบาดแผลถลก โดยให้มูลนิธิฯ นำศพไปไว้ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อรอญาติมาติดต่อรับศพนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป