กลุ่มคนจีนบุกปล้นกันเอง จับเหยื่อมัดมือมัดเท้า รีดเงิน 10 ล้าน เหยื่อดิ้นหนีตายเอาชีวิตมาได้ ตำรวจงง น้องสาวถูกลักพาตัวไปด้วย พบนั่งเครื่องกลับประเทศจีน
วันที่ 18 ก.ค.67 เวลา 00.58 น. ร.ต.อ.ดำฉลวย สำคัญยิ่ง รอง.สว.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งเหตุปล้นทรัพย์ภายในบ้านนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เหตุเกิดบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 6 ของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซ.ลับแล ต.หนองปรือ จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และพร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบในทันที
ที่เกิดเหตุอยู่ในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีเนื้อที่ประมาณ 60-80 ตารางวา บริเวณหน้าบ้านพบชายชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อต่อมาคือ นายเฉียน อายุ 34 ปี เจ้าของร้านขาย ถุงคลุมเสื้อ ถุงคลุมเสื้อกันฝุ่น สัญชาติจีน อยู่ในอาการตกใจกลัว ที่ข้อมือและข้อเท้ามีร่องรอยการถูกรัด ด้วยสายเคเบิลไทร์
ภายในบ้านพบร่องรอยการถูกรื้อค้นทรัพย์สินทั้งชั้นล่างและชั้น 2 ภายในห้องโถงของบ้านพบสายเคเบิลไทร์ตกอยู่เกลื่อนพื้นห้องครัว ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นายเฉียน เปิดเผยว่า ได้เดินทางมาอยู่ประเทศไทยได้ประมาณ 1 ปี โดยหวังจะสร้างครอบครัวและจะลงทุนทำธุรกิจในประเทศไทย โดยก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 17 ก.ค.67 คนร้ายเป็นชายชาวจีนประมาณ 2-3 คน บุกเข้ามาในบ้าน ขณะนั้นตนกำลังนั่งเล่นเกมส์อยู่บริเวณชั้นลอยของบ้าน โดย 1 ใน 3 ได้ชักอาวุธปืนออกมาจ่อ และบังคับพาเข้าไปภายในห้องนอน
จากนั้นใช้สายเคเบิลไทร์ จับมัดมือมัดเท้า ใช้ผ้าอุดปาก และใช้ผ้าเทปพ้นรอบศีรษะ จากนั้นจับตัวกดลงไปนอนกับเตียง พร้อมทั้งขู่บังคับ ให้โอนเงินเข้าบัญชี จำนวน 10 ล้านบาท หากไม่ทำตามจะฆ่าน้องสาว ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของตนเอง ชื่อว่า นางสาวตู่ อายุ 33 ปี โดยนอนอยู่ที่บริเวณห้องพักชั้น 2 ของบ้าน จากนั้นคนร้ายก็พากันเดินออกจากห้องนอนเพื่อไปรื้อค้นทรัพย์สิน
จนเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง คนร้ายก็ยังพยายามจะมาบังคับให้ตนเองโอนเงินเข้าบัญชีก่อน 3 ล้านบาท แต่ตนไม่ยอมทำตาม และอาศัยจังหวะ ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุเผลอ พยายามดิ้นสุดแรง จนสายเคเบิลไทร์ เกิดการคลายตัว แล้ววิ่งหนีออกจากบ้าน โดยปล่อยให้น้องสาวอยู่ภายในบ้านลำพัง แล้วไปแอบซ่อนตัวอยู่ใกล้ ๆ บ้าน
ระหว่างที่ซ่อนตัว เห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุ พากันเดินออกจากบ้าน และพาน้องสาวของตนขึ้นรถไปด้วย จึงรีบติดต่อหาคนไว้ใจ แล้วพาเข้าแจ้งความเมื่อช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน โดยในเบื้องต้นพบว่ามีคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ต อย่างละ 1 เครื่อง ได้หายไป อีกทั้งตนเองรู้สึกเป็นห่วงน้องสาวอย่างมาก จึงอยากวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามพาน้องสาวกลับมาให้ได้
ล่าสุด เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 18 ก.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.หนองปรือ ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา และตำรวจ ตม.ชลบุรี พาตัว นายเฉียน อายุ 34 ปี ลงพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบและเก็บหลักฐานต่างๆ อย่างละเอียด จากการสอบปากคำผู้เสียหาย ประกอบร่องรอยและพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่พบยืนยันว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นจริง
ส่วนจำนวนเงินนั้นมีการโอนออกจริง ผ่านแอปพลิเคชั่นธนาคารต่างประเทศ แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าสำเร็จหรือไม่ และจำนวนเงินเท่าไหร่ เนื่องจากโทรศัพท์ของผู้เสียหายที่มีแอพพลิเคชั่นไว้ทำธุรกรรมทางการเงิน ถูกคนร้ายยึดเอาไปด้วย (พร้อมรหัสการทำธุรกรรม) นอกจากนี้ระหว่างที่ถูกคนร้ายข่มขู่ เหมือนมีการพูดว่า โอนเงินสำเร็จไปแล้ว จำนวน 3 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ต้องรอตรวจสอบกับทางธนาคารอีกครั้งหนึ่ง
ส่วน นางสาวตู่ อายุ 33 ปี ลูกพี่ลูกน้องชาวจีนของผู้เสียหายที่คาดว่า ซึ่งตอนแรกผู้เสียหายเข้าใจว่าถูกกลุ่มคนร้ายลักพาตัวไป แต่ข้อมูลล่าสุดมีการตรวจสอบและยืนยันแล้ว ว่า ได้เดินทางออกจากประเทศไทย ไปเมื่อเวลา 04.00 น. ที่สนามบิน ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าไปที่สนามบินหางโจว ประเทศจีน 4 ชั่วโมง ส่วนคนร้ายเป็นชายชาวจีน 2 คน ตำรวจอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนแกะรอยหาเบาะแส โดยเชื่อว่ายังหลบหนีอยู่ในประเทศประเทศไทย
ส่วนการบุกเข้าปล้นผู้เสียหายในครั้งนี้ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามาจากสาเหตุใด และตัวน้องสาวของผู้เสียหาย อาจมีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็น กับการปล้นลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง ซึ่งชุดสืบสวนอยู่ระหว่างลงพื้นที่หาข่าว เพื่อสรุปสาเหตุของการก่อเหตุที่แท้จริงในครั้งนี้