ไม่ถึง 24 ชั่วโมง ตำรวจตามรวบตัวได้แล้ว สาวโรงงานจี้ชิงร้านทอง 37 เส้น ผัวยังช็อก เลิกงานยังกลับบ้านพร้อมกัน ไม่พบพิรุธเมีย
จากกรณี เมื่อช่วยเย็นวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายซึ่งคาดการณ์ว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งไปก่อเหตุจี้พนักงานในร้านทอง ให้ส่งถาดทองให้ก่อนจะกวาดเอาสร้อยคอทองน้ำหนักหนึ่งสลึงไป ตามรายงานในตอนแรกคาดว่าคนร้ายได้ไปทั้งหมด 37 เส้น รวมน้ำหนักประมาณ 9 บาท มูลค่าประมาณ 3 แสนบาท
กระทั่งมีข้อมูลจากแหล่งข่าวพลเมืองดีรายหนึ่งที่ คุ้นเคยรูปพรรณสัณฐานและน้ำเสียงของคนร้ายรายนี้ออกมาให้เบาะแสกับทางตำรวจจนทราบตัวหญิงต้องสงสัยรายนี้
ล่าสุด วานนี้ (5 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้ดักจับกุมตัวหญิงต้องสงสัยรายนี้ คือ นางวนิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี หัวหน้าคนงานของโรงงานผลิต กล่องใส่ส้ม กล่องเจาะรู แห่งหนึ่งในอำเภอบางเสาธง โดยจับตัวได้ในขณะที่กำลังกลับเข้าบ้านพักย่านอำเภอบางเสาธง
โดยเธอจำนนด้วยหลักฐานทั้งจากกล้องวงจรปิดและพยานหลักฐานอื่น จึงรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง ตำรวจจึงขยายผลตามไปยึดของกลาง สร้อยคอทองคำที่ซุกซ่อนภายในกระเป๋าวางไว้ภายในบ้านพัก
จากนั้นขยายผลตามไปจึงพบของกลางไม่ว่าจะเป็นรองเท้า เสื้อผ้า ถุงมือ ที่ใช้สวมใส่ในการก่อเหตุ และคุมตัวผู้ต้องหารายนี้มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.บางเสาธง พร้อมกับของกลาง เป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนักเส้นละ 1 สลึง จำนวน 28 เส้น
นอกจากนี้ ยังมีบางส่วนที่ขาดหายไปจากการก่อเหตุ ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้นำสร้อยคอจำนวน 5 เส้นไปขายให้กับร้านทองในห้างในราคาเส้นละ 1 หมื่นบาท ก่อนจะนำเงินไปใช้หนี้สินบางส่วนแล้ว โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง อ้างว่าหาเงินจ่ายค่าบ้านค่ารถ
ด้าน นายเอ สามีของผู้ก่อเหตุ (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า ยังช็อกกับการจับกุมภรรยาของตนเองในครั้งนี้ ไม่คิดว่าจะกล้าลงมือก่อเหตุ ช่วงค่ำวานเลิกงานที่บริษัทเดียวกันและยังกลับบ้านพร้อมกันโดยไม่พบพิรุธของภรรยาแต่อย่างใด
กระทั่งมาทราบเรื่องว่าภรรยาถูกจับ ส่วนสาเหตุก็คาดว่าจะมาจากหนี้สินในโรงงานหรืออาจะเป็นหนี้นอกระบบ ซึ่งภรรยาไม่เคยบอกอะไรกับตนเอง แต่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ตนเองก็เคยช่วยใช้หนี้ไปบ้างแล้วบางส่วน
ด้าน พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้ หลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่หาเบาะแสของ จนสามารถติดตามจับกุมตัวได้อย่างรวดเร็วและยึดของกลางเป็นสร้อยคอกลับมาได้ค่อนข้างเกือบหมด มีเพียง 5 เส้นที่คนร้ายนำไปขายในช่วงสายของวันนี้
ส่วนสาเหตุที่ลงมือคนร้ายอ้างว่ามาจากการต้องหาเงินไปจ่ายค่างวดรถค่างวดบ้านรวมถึงภาระในครอบครัวจึงคิดสั้นลงมือก่อเหตุ ส่วนอาวุธที่นำมาข่มขู่พนักงานตามคลิปวงจรปิดนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นชุดกันฝนลักษณะเป็นกางเกงกันฝนสีฟ้านำมาพันม้วนให้ดูคล้ายกับมีอาวุธในการก่อเหตุ
เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในการหลบหนี เตรียมนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุไม่ประสงค์ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ยอมรับว่าก่อเหตุจริง